อาจารย์ครับทำอย่างไรการสะกดจิตจึงจะได้ผล

   


สมัยก่อนโน้นผมยังเป็นผู้ช่วยคอยติดตามอาจารย์ (ดร.บุญเลิศ สายสนิท) ไปบรรยายตามงานอบรมต่างๆ เวลานั่งทานข้าวกันบางทีก็นึกเฮี้ยนๆ ถามอาจารย์ว่า 
 
"อาจารย์ครับ ทำอย่างไรการสะกดจิตจึงจะได้ผล?"
 
อาจารย์ท่านก็จะตอบกลับ "เธอต้องเชื่อ!" ถ้าเธอเชื่อเธอจะได้ แต่ถ้าไม่เชื่อก็อด
 
คนสมัยก่อนเขาเด็ดขาด ฟันทีเดียวขาดทั้งต้น ถามมาง่ายๆ ก็ตอบกันง่ายๆ อย่างนี้แหละ
 
มาสมัยนี้ ผมมักบอกว่าเราไม่ต้องจิตใจเข้มแข็งแบบคนสมัยก่อนก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากให้การสะกดจิตบำบัด (เพื่อแก้ไขปัญหาของตัวคุณเองนั่นแหละ) คุณจำเป็นต้องมี 4 อย่างต่อไปนี้เป็นต้นทุน คือ
 
1. "ความกระหายในผลลัพธ์ที่จะได้" ข้อนี้เป็นต้นทุนสำคัญที่สุด เพราะถ้าไม่มีข้อนี้การสะกดจิตทำอย่างไรก็ไม่เกิดผล
 
2. "การเป็นผู้ยอมรับฟังที่ดี" ข้อนี้อธิบายง่ายๆ คือความดื้นของคนนั้นยิ่งน้อยก็การสะกดจิตยิ่งทำงานสะดวก เหตุผลเพราะเนื้อแท้ของการสะกดจิตคือการให้คำแนะนำในการแก้เป็นหา(ของท่าน) แต่ถ้า(ตัวท่าน)ดื้นดึงไม่ยอมรับฟังทุกอย่างมันก็จบเห่ ข้อนี้จึงสำคัญรองลงมาเพราะการสะกดจิตถ้าจะล่มก็มักจะล่มในข้อนี้
 
3. "ความไว้วางใจ" ข้อนี้หมายถึงความไว้วางใจของผู้รับการสะกดจิตที่มีต่อตัวนักสะกดจิต ยิ่งมีความไว้วางใจมากการสะกดจิตก็ยิ่งมีกำลังเสริม เหตุผลเพราะสมอง(ของท่าน)ย่อมยินดีเปิดรับเฉพาะต่อสิ่งที่ (ตัวท่าน) วางใจเท่านั้น คนเราไม่ชอบขี้หน้ากันพูดแนะนำกันดีขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์
 
4. "สื่อสารกันได้" ข้อนี้คือปราการด่านสุดท้าย เหตุผลการสะกดจิตคือการให้คำแนะนำซึ่งต้องผ่านกระบวนการสื่อสารกัน ดังนั้นคนจะสะกดจิตได้ต้องสื่อสารกันได้ คือคุยกันได้ รับฟังกันได้ ถ้าหูหนวกสมองพิการหรือพูดคุยกันไม่ค่อยจะรู้แล้วก็เป็นอันว่าไปกันต่อไม่ได้
 
ความจริง 4 ข้อที่อธิบายมานี้ไม่ใช่ของใหม่อะไร มันคือการพยามแยกธาตุอันเป็นองค์ประกอบของสิ่งที่เรียกว่า "ความเชื่อ" ในการปฏิบัติการสะกดจิตนั่นเอง
 
คนสมัยใหม่พูดแยกเป็นข้อๆ เพื่อเน้นสร้างเข้าใจ ส่วนคนโบราณรวบรัดตัดจบเพื่อความทรงพลังของผลลัพธ์
 
ความสำเร็จของการสะกดจิตก็เป็นเช่นนี้
 
:)
 
ปล. เขียนเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึงเรื่องเก่าๆ ว่า สมัยก่อนผมกับอาจารย์มีไอเดียทดลองอะไรประหลาดๆ เกี่ยวกับเรื่องของการสะกดจิต เยอะมาก แต่จนแล้วจนรอดไม่ได้ทำซักอย่างเพราะมัวแต่เอาเวลาไปทำงานอื่นๆ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "สิ่งใดอยากทำ ทำแล้วไม่เดือดร้อน ควรรีบลงมือ ก่อนไม่มีโอกาสได้ทำ"
 
:)