ผ่อนลายซักนิด
ทุกครั้งที่เกิดปัญหาสับสนอลหม่านมองจนไม่เห็นทางออกขึ้นมา ความจริงสิ่งแรกที่เราควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือการวางทุกอย่างลง ผ่อนคลาย ปล่อยวางจากปัญหาเหล่านั้น เพื่อให้สมองเหลือพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับค้นหาทางออกที่แท้จริงบ้าง
ถ้าเราสังเกตให้ดี เราจะพบว่าแทบจะทุกปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น มันไม่สามารถแก้ได้ในขณะที่เรากำลังวุ่นวายอยู่กับปัญหาเหล่านั้น
โดยเกือบจะทั้งหมดสามารถแก้ไขได้เมื่อเราสงบสติอารมณ์ ปล่อยวางจากปัญหา แล้วทางออกก็พลันสว่างวาบขึ้นมา ส่วนที่วุ่นวายจนแก้ไขกันจนได้นั้นโดยมากจะเป็นเรื่องของความบังเอิญพบทางออกแทบจะทั้งนั้น
ดังนั้นความผ่อนคลายจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และไม่ควรถูกมองข้ามไปเป็นอย่างยิ่ง
การมีทักษะในการผ่อนคลายตนเอง จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิต เพราะเชื่อเถอะว่าไม่มีใครหรอกที่เกิดมาแล้วไม่มีปัญหา
สำคัญคือเมื่อมีปัญหาขึ้นมาแล้วเราจะจัดการมันอย่างไรต่างหาก
และแน่นอนคนที่ปล่อยวางได้ ผ่อนคลายเป็น ย่อมได้เปรียบเสมอ
การผ่อนคลายอาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับบางคน แต่อีกหลายๆ คนอาจรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้เกิดขึ้น
เพื่อให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ลดความกดดันตึงเครียดที่สะสมในชีวิต บางทีคำแนะนำเหล่านี้อาจมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคุณ
1. การหายใจ - ขอให้คุณจำไว้เถอะว่าวิธีสร้างความรู้สึกผ่อนคลายที่ง่ายและต้นทุนต่ำที่สุดก็คือการหายใจนี่แหละ
ลมหายใจของเราคือยาวิเศษ เพียงแค่หลับตาลง หายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกเบาๆช้าๆ ทำเช่นนี้ซัก 10 รอบ ความรู้สึกผ่อนคลายก็จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
2. บรรยากาศดีๆ - สมองย่อมถูกกระตุ้นโดยสิ่งเร้าที่อยู่รอบๆ คือถ้าเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเราก็ย่อมรู้สึกดี แต่ถ้าเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แย่เราก็ย่อมหนีความรู้สึกแย่ๆ ไปไม่ได้ มันเป็นหลักการพื้นฐานสำคัญที่ไม่มีใครสามารถหลีกหนีพ้น
หากรู้สึกว่าชีวิตมีแต่ความวุ่นวายสับสน มีแต่ปัญหาอยู่รอบด้าน การพาตัวเองออกไปให้พ้นจากสิ่งแวดล้อมแบบนั้นไปยังสถานที่อื่น สิ่งแวดล้อมอื่นที่ดีกว่า จึงเป็นทางออกง่ายๆ อีกทางหนึ่งที่น่าสนใจ
รู้สึกเครียดหรอ? เราออกไปเดินเล่นกันมั๊ย :)
3. การออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา - ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ยกลูกเหล็ก หรืออะไรก็ตามที่ใช้พลังงานในร่างกายมากๆ ล้วนเป็นตัวช่วยที่ดีทั้งสิ้น
เพราะหลังจากการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง ในสภาพที่ร่างกายหมดสิ้นเรี่ยวแรง ทันใดนั้นความรู้สึกผ่อนคลายก็จะบังเกิดขึ้น สมองของเราจะหลั่งสารแห่งความสุขเช่น เอ็นโดรฟีน หรือโดปามีนออกมาเป็นจำนวนมาก
มันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว และที่สำคัญคือมีความสุข นี่เป็นกลไกตามธรรมชาติที่เราสามารถนำมาใช้ได้ง่ายๆ
4. เลิกพยายามเป็นคนสมบูรณ์แบบ - คุณต้องเข้าใจว่าความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง ทันทีที่เรารู้สึกว่าอะไรก็ตามมันดีพร้อมสมบูรณ์แล้ว มันก็จะเกิดสิ่งที่ดีกว่าขึ้นมาในทันทีนั่นแหละ
ดังนั้นการพยายามเก๊กหล่อ ทำตัวเป็นคนสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ คอยแต่จะต้องวิ่งไล่ตามความเพอร์เฟคแบบนี้จึงเป็นเรื่องไร้ประโยชน์สิ้นดี มันคล้ายกับคนวิ่งตามดวงอาทิตย์นั่นแหละ วิ่งไปเถอะวิ่งอย่างไรก็ไม่เคยตามทันเสียที
การทำตัวเป็นคนง่ายๆ ลดความคาดหวังจากความสมบูรณ์แบบ จึงเป็นหนทางง่ายๆ อีกอย่างหนึ่งที่จะนำมาสู่ความผ่อนคลายในชีวิตได้
5. ขอความช่วยเหลือบ้างเมื่อจำเป็น - ข้อนี้คล้ายๆ กับข้อที่แล้ว คือขอให้คุณเข้าใจเถอะว่าไม่มีชีวิตของใครที่ไม่มีปัญหา จะมากบ้างน้อยบ้างก็คงอีกเรื่อง
ทีนี่บรรดาปัญหาน้อยใหญ่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน มันก็คงมีทั้งปัญหาขี้ประติ๋วที่เราสามารถจัดการเองได้ รวมไปถึงปัญหาใหญ่โตมโหฬารสุดความสามารถในบางโอกาส
ดังนั้นการพยายามแก้ปัญหาทุกสิ่งอย่างด้วยตนเองถึงไม่ใช่รูปแบบที่ดีนัก ยอมลดทิฐิลงแล้วขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้างเมื่อถึงคราวจำเป็น คือวิธีการลดาระความหนักอึ้งในชีวิตได้อย่างยอดเยี่ยม
6. อย่าปล่อยมือคนที่คุณรัก - เมื่อต้องเผชิญอยู่กับอุปสรรคที่แสนเลวร้าย อย่าลืมนึกถึงคนที่อยู่ข้างๆคุณ
มั่นใจได้เลยว่าการได้กุมมือใครสักคนเอาไว้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่สำคัญคือมันยังช่วยโคตรพละกำลังให้กับเราได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
7. จดบันทึกทุกอย่างลงไป - การได้ระบายออกคือวิธีการง่ายๆ อีกอย่างหนึ่งซึ่งเราสามารถนำมาใช้รับมือเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยปัญหา แต่ในบางครั้งเราก็อาจจะรู้สึกว่าไม่มีใครรับฟังเราเสียเลย
ดังนั้นจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ว่าจงระบายความรู้สึกทั้งหมดลงไปในสมุดจดบันทึกประจำวันของคุณ
ไม่ว่าจะมีเรื่องคับข้องใจใดๆ ก็ตามจงเขียนระบายมันลงไปในสมุดเล่มนั้น มันเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมมากเมื่ออยู่ในสภาวะที่จะต้องเผชิญปัญหาตามลำพัง
นอกจากการได้ระบายแล้วการเขียนสมุดบันทึกยังทำหน้าที่เหมือนกับเป็นตัวช่วยให้สมองของเราเกิดการจัดเรียงข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้เป็นระบบระเบียบมากิ่งขึ้น ดังนั้นอย่าแปลกใจหากบ่อยครั้งที่วิธีการแก้ไขปัญหาจึงสว่างวาบขึ้นมาในขณะที่เรากำลังเขียนลงสิ่งต่างๆ
8. การทำสมาธิ - สมาธิไม่ใช่เรื่องของศาสนา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับลัทธิหรือความเชื่อใดๆ แท้จริงแล้วการทำสมาธิคือการฝึกให้สมองเคยชินที่จะลดระดับการทำงานลง
การทำสมาธิบ่อยๆจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสมองได้โดยตรง เรื่องนี้โปรดอย่าได้สงสัยเพราะได้มีการทดลองเกี่ยวกับเรื่องนี้จากสถาบันใหญ่ๆ มานักต่อนักแล้ว
สละเวลาเพียงวันละ 5-10 นาทีฝึกสมาธิบ้าง มันยอดเยี่ยมแน่นอน ข้อนี้ขอรับประกัน
9. การสะกดจิตบําบัด - และท้ายที่สุดนี้ หากรู้สึกว่าปัญหาที่กำลังล้อมหน้าล้อมหลังอยู่นั้นมันหนักหนาสาหัสเกินไปกว่าที่จะสามารถจัดการแก้ไขด้วยตัวเองได้ จะแบกต่อไปก็ไม่ไหวจะวางลงก็ทำไม่ได้ ในกรณีเช่นนี้ กระบวนการสะกดจิตบําบัด (Hypnotherapy) โดยนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ สามารถช่วยเหลือคุณได้