Alfred Adler บุคลิกสี่ประเภท
Adlerได้ใช้วิธีการแบ่งประเภทของคนที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับบุคคลิกที่มีสุขภาพจิตดีและบุคคลิกที่มีสุขภาพจิตไม่ดี เขาจำแนกประเภทของบุคลิกด้วยความลังเลใจ เพราะเขาไม่ได้นึกถึงมนุษย์ในฐานะที่เป็นประเภท แต่เขานึกถึงมนุษย์ว่าแต่ละคนนั้นมีวิถีชีวิตพิเศษไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เขาก็คิดว่าการจัดประเภทของบุคคลให้คุณประโยชน์ทางการศึกษาและเขาก็เสนอประเภทของบุคคลิกเหล่านี้ด้วยการให้เหตุผลตามที่กล่าวมา
1. The Ruling Type ตามทฤษฎีของ Adler บุคคลประเภท ruling type จะขาดความสนใจและเป็นคนไม่กล้าเมื่อถูกข่มขู่ พวกเขาจะลดความร้อนรนใจโดยการการมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม ความที่เขาอยากเด่นเป็นอย่างมากทำให้เขาเอาเปรียบและทำร้ายผู้อื่น พวกเขาพยายามควบคุมคนอื่นเพื่อสร้างความรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจและเป็นคนสำคัญ ตอนเป็นเด็กบุคคลประเภท ruling type จะลงไปชักดิ้นชักงอบนพื้น กลั้นลมหายใจ กรีดร้อง เตะต่อย หรือไม่ก็ตะโกนเพื่อหวังว่าพ่อแม่จะยอมเขา เมื่อโตขึ้นมาพ่อเป็นแม่ก็จะบังคับให้ลูกเชื่อฟังโดยอ้างว่า "ก็ฉันบอกให้ทำ" เมื่อเป็นครูพวกเขาก็ข่มขู่ลูกศิษย์โดยขู่ว่า "ถ้าไม่ทำอย่างนี้เธอต้องไปหาครูใหญ่" พวก ruling type อาจพยายามควบคุมคนโดยการใช้เงินเพราะมีความเชื่อว่าเงินซื้อทุกคนได้ Adler ได้กล่าวว่าเด็กวัยรุ่นที่ทำผิดกฎหมาย บุคคลที่ฆ่าตัวตาย และคนติดยาเสพติดล้วนเป็นตัวอย่างของคนเป็น ruling type ทั้งสิ้น
2. The Socially Useful Type บุคคลประเภทที่ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคม หรือจะเติบโตในครอบครัวที่มีสมาชิกช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ปฏิบัติต่อกันด้วยความเกรงใจและเข้าใจกัน และไม่ค่อยจะแก้ปัญหาที่กดดันด้วยการขัดแย้งหรือก้าวร้าวใส่กัน เมื่อมาเป็นผู้ใหญ่พวกเขาจะปฏิบัติต่อคนในครอบครัวและนอกครอบครัวอย่างเกรงอกเกรงใจให้ความรักและมิตรภาพ และไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมกลหรือหลอกลวงคนอื่นเหมือนเล่นเกม
บุคคลที่ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อสังคมจะมีสุขภาพจิตดี พวกเขาเผชิญชีวิตด้วยความเชื่อมั่นและพร้อมที่จะร่วมมือกับผู้อื่น ทำประโยชน์สุขให้ผู้อื่นโดยสร้างชุมชนที่ดีขึ้น สรุปแล้วก็คือว่าพวกเขาทำประโยชน์ให้กับสังคม
Crandall ได้สร้างวิธีการวัดผลประโยชน์ทางสังคมที่ใช้ได้ผล เพื่อวัดความคิดของAdlerโดยทดสอบบุคคลที่มีการทำเพื่อสังคมสูง เขารายงานว่าบุคคลที่มีความรู้สึกเพื่อสังคมสูงจะยึดมั่นในตนเองน้อยกว่า มองโลกในแง่ร้ายน้อยกว่า นอกจากนี้พวกเขายังมีสุขภาพจิตดีกว่า ปรับตัวได้ดีกว่าทางจิตวิทยา ผลงานวิจัยรุ่นหลังโดย Leak, Milard, Perry และ William ซึ่งใช้วิธีการวัดหลายอย่าง ในการวัดผลประโยชน์ทางสังคม โดยทั่วไปแล้วผลการวิจัยของพวกเขาสอดคล้องกับของ Crandall ผลงานของของพวกเขาบ่งว่าบุคคลที่มีความรู้สึกเพื่อสังคมจะรู้สึกว่าการมีเงินมากไม่สำคัญ เป้าหมายที่มีความสุขคือการมีครอบครัวที่มีความสุข และการได้เป็นผู้นำในชุมชนและการทำให้สังคมมีความเสมอภาคกันทางสังคมและเศรษฐกิจ