เพิ่มความสามารถในการอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก

   


คนเราทุกคนจะมีอาณาเขตสมมุติที่เรียกว่า “เขตพื้นที่ส่วนตัว” (Personal Zone) อยู่ด้วยกันทุกคน แต่จะเล็กบ้างใหญ่บ้างก็แล้วแต่รายคนไป
 
มันก็เหมือนกับพื้นที่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายๆ ชนิดนั่นแหละ เช่น สิงโตก็จะมีเขตพื้นที่ส่วนตัวของมันเป็นอาณาเขตกว้างหลายกิโลเมตร หากว่ามีสิงโตตัวอื่นเกิดหลงเข้าไปในพื้นที่ของมันเมื่อไหร่ มันก็ถึงกับต้องออกไปสู้รบขับไล่ให้พ้นจากพื้นที่กันเลยทีเดียว
 
สำหรับมนุษย์ความจริงก็คล้ายๆ อย่างนั้น
 
ถึงแม้เขตพื้นที่ส่วนตัวของมนุษย์จะไม่กว้างขวางใหญ่โตเท่าสิงโต แต่ที่เหมือนกันกับสิงโตก็ตรงที่หากมีใครก้าวล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของตนแล้วล่ะก็ มันจะทำมนุษย์คนนั้นจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในทันที
 
ความรู้สึกหงุดหงิดที่ว่านี้ก็คือความรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวเรากำลังถูกบุกรุก หนักๆ เข้ามันก็จะกลายเป็นความรู้สึกว่าฉันกำลังไม่ปลอดภัย
 
นี่คือเหตุผลว่าทำไมเวลาไปกินก๋วยเตี๋ยวเราจึงเลือกนั่งโต๊ะที่ไม่คนนั่งก่อนเสมอ และในกรณีที่ร้านมีคนแน่น การที่มีใครซักคนที่เราไม่รู้จักมานั่งร่วมโต๊ะด้วยจะทำให้เรารู้สึกอึดอัดขึ้นมาในทันที แต่จะมากหรือน้อยก็อีกเรื่องหนึ่ง
 
ความกว้างแคบของเขตพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนนี้มีไม่เท่ากัน ความจริงมันมีขนาดไม่คงที่ โดยขึ้นอยู่กับเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมในขณะนั้นด้วย
 
โดยทั่วไปพบว่าผู้คนที่เติบโตขึ้นมาในเมืองใหญ่หรือชุมชนที่มีความแออัดทางประชากรมากๆ จะมีเขตพื้นที่ส่วนตัวที่แคบกว่าคนที่เติบโตในชนบทหรือชุมชนที่มีผู้คนอาศัยอย่างกระจายตัว
 
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าเขตพื้นที่ส่วนตัวนี้สามารถย่อขยายได้ตามแต่สถานการณ์ บางทีถ้าเราจำเป็นที่จะต้องไปอยู่ที่ที่มีผู้คนหนาแน่น ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องยอมรับกับสภาวะแบบนั้น (เช่นการไปชมคอนเสิร์ต) ขนาดของพื้นที่ส่วนตัวของเราก็จะถูกย่อให้หดเล็กเข้ามาโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เรารู้สึกอึดอัดหรือหงุดหงิดมากนักเวลาที่ต้องอยู่รวมกันอย่างแออัดกับคนจำนวนมาก แต่พอพ้นเหตุการณ์จำเป็นนั้นไปแล้วเขตพื้นที่ส่วนตัวก็จะขยายกลับคืนไปมีขนาดเท่าเดิมอีกตามความเคยชินพื้นฐานของเรา
 
ทีนี้ปัญหามันจะเริ่มเกิดขึ้นทันทีหากความสามารถในการยืดหยุ่นของเขตพื้นที่ส่วนตัวนั้นเกิดไม่เพียงพอต่อการรับมือต่อสถาณการณ์จำเป็นในชีวิตประจำวัน
 
เช่น เมื่อต้องไปอยู่ในสถานที่ๆ มีคนอยู่อย่างหนาแน่น (เช่นในงานเลี้ยง) แต่กลับไม่สามารถลดขนาดพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองลงได้ ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด ความรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว หนักๆ เข้าก็หงุดหงิดจนกลายเป็นคนไม่สามารถเข้าสังคมไปได้เลย
 
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าอยู่ยาก
 
แล้วจะทำอย่างไร?
 
หนึ่งในคำตอบสำหรับเรื่องนี้ก็คือ “NLP”
 
มันมีวิธีการมากมายหลายวิธีที่ NLP จะใช้ในการจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในบทความนี้นี้ผมขอเสนอวิธีการที่เรียกว่า "Six Step Reframe" ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
 
1. ก่อนอื่นผมอยากให้คุณหลับตาลง หายใจลึกๆ ช้าๆ ซัก 3-5 ครั้ง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนทั่วร่างกายของคุณ
 
2. ลองถามตัวเองว่า “ความรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องเข้าสังคม ความอัดอัดไม่สบายใจเมื่อต้องอยู่กลางคนจำนวนมากที่กำลังเป็นอยู่นี้ มันให้ประโยชน์อะไรกับตัวฉันบ้าง? และฉันควรแก้ไขมันหรือไม่?”
 
3. ลองฟังคำตอบที่มันมาจากใจส่วนลึก (จิตใต้สำนึก) ของคุณดูครับว่ามันจะว่าอย่างไร มันต้องการที่จะได้รับการแก้ไขหรือไม่ ถ้ามันตอบในทำนองว่า “ไม่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ฉันต้องการแก้ไขมัน” เราก็จะไปสู่ขั้นตอนต่อไป แต่ถ้ามันบอกเหตุผลบางประการณ์ที่ทำให้ต้องการคงปัญหานี้ไว้ คุณก็จะได้รับรู้ความรู้สึกจากจิตส่วนลึกของคุณครับว่ามัน “ทำไม” มันจึงเป็นอย่างนั้น เมื่อฟังแล้วก็ลองพิจารณาดูว่าเหตุผลนั้นเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลมากพอหรือไม่ (เพราะคำตอบที่ได้อาจจะเป็นมุมมองแปลกๆ ที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อนก็เป็นได้) หากความฉลาดจากจิตรู้สำนึกของคุณคิดว่าเหตุผลเหล่านั้นมันช่างไร้สาระเหลือเกิน คุณก็พร้อมแล้วที่จะไปสู่ขั้นตอนต่อไป
 
4. จินตนาการว่าคุณกำลังยืนอยู่บนพื้นที่ว่าง แล้วจินตนาการสร้างเส้นวงกลมบนพื้นขึ้นมาหนึ่งวงโดยคุณกำลังยืนอยู่กลางวงกลมนี้ วงกลมนี้ก็คือตัวแทนของ “เขตพื้นที่ส่วนตัว” (Personal Zone) ของคุณนั่นเอง ดังนั้นมันจะมีขนาดเท่าไหร่ก็ได้ตามที่คุณต้องการ
 
5. ผมอยากให้คุณแน่ใจว่านี่คือเขตพื้นที่ส่วนตัวของคุณจริงๆ โดยให้คุณจินตนาการว่าด้านนอกของเส้นวงนี้มีเป็นงานเลี้ยงแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้คุณมากหน้าหลายตายืนอยู่เต็มไปหมด ส่วนพื้นที่ด้านในของวงกลมนั้นไม่มีใครอยู่เลยนอกจากตัวคุณ จากนั้นลองดูความรู้สึกว่าคุณรู้อย่างไร? รู้สึกอึดอัด? หรือรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวหรือไม่? ในขั้นตอนนี้ความจริงแล้วคุณยังไม่ควรที่จะรู้สึกอึดอัดเพราะยังไม่มีใครบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของคุณเลย แต่อย่างไรก็ตามหากคุณรู้สึดอึดอัดคุณก็สามารถขยายเส้นวงของคุณให้กว้างออกไปได้อีกจนกว่าคุณจะมีพื้นที่ว่างมากพอให้คุณรู้สึกสบาย
 
6. คราวนี้จินตนาการว่าผู้คนทั้งหลายได้หายไปจนหมด เหลือไว้แต่ตัวคุณและเส้นวงเขตพื้นที่ส่วนตัวของคุณเท่านั้น
 
7. ผมจะนับ 3 ถึง 1 เพื่อย่อรัศมีของเส้นวงลงมาซักครึ่งหนึ่ง เมื่อนับถึง 1 แล้วเส้นวงพื้นที่ส่วนตัวของคุณจะหดเล็กลงเหลือเพียงครึ่งนึง (เช่นจากรัศมี 3 เมครก็เหลือ 1.5 เมตรพอ)
 
8. เอาล่ะ ...3 ..2 ..1 ตอนนี้เส้นวงพื้นที่ส่วนตัวของคุณได้หดเล็กลงเหลือเพียงครึ่งเดียวแล้ว แต่คุณยังรู้สึกสบาย ไม่อึดอัดเลย คุณยังคงสบาย หายใจได้อย่างสะดวก ยังคงรู้สึกผ่อนคลาย สงบ และเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมาก (หากรู้สึกว่าไม่สบายเอาเสียเลย คุณสามารถย้อนกลับไปยังขั้นตอนที่ 5 ได้นะครับ)
 
9. ผมจะนับ 3 ถึง 1 เพื่อย่อรัศมีของเส้นวงลงมาอีก คราวนี้เมื่อนับถึง 1 แล้วเส้นวงพื้นที่ส่วนตัวของคุณจะหดเล็กลงเหลือเพียงรัศมีทึ่มีขนาดกว้างกว่าตัวคุณนิดหน่อยเท่านั้น
 
10. เอาล่ะ 3 ..2 ..1 ตอนนี้เส้นวงพื้นที่ส่วนตัวของคุณหดเล็กลงแล้ว แต่คุณก็ยังรู้สึกสบาย ไม่อึดอัดเลย คุณยังคงสบาย หายใจได้อย่างสะดวก ยังคงรู้สึกผ่อนคลาย สงบ และเป็นส่วนตัว
 
11. ตอนนี้พื้นส่วนตัวของคุณถูกย่อแคบเข้ามาแต่คุณยังคงรู้สึกสบาย รู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกเป็นส่วนตัว รู้สึกสงบ ดังนั้นต่อไปนี้ไม่ว่าท่ามกลางตัวคุณจะมีผู้คนรายล้อมมากแค่ไหนก็ตามคุณสามารถที่จะอยู่ได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดลำบากใจอีกต่อไป
 
12. คุณอาจจะฝึกเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเขตพื้นที่ส่วนตัวของคุณ โดยการขยายพื้นที่ส่วนตัวของคุณออกไปให้กว้างเหมือนกับขนาดตอนเริ่มต้น (ไม่ต้องสร้างคนในงานเลี้ยงขึ้นมาอีกแล้ว)
 
13. ทดลองย่อขนาดของเส้นวงลงมาดังในขั้นตอนที่ 7-11 โดยอาจจะทำวนซ้ำอย่างนี้ไปซัก 3-5 รอบเพื่อฝึกให้เขตพื้นที่ส่วนตัวของคุณมีความยืดหยุ่น และสามารถรักษาความสงบเอาไว้ได้ไม่ว่ามันจะกว้างแคบซักค่าไหนก็ตาม
 
14. หายใจลึกๆ ช้าๆ ซัก 3-5 ครั้ง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนทั่วร่างกายของคุณแล้วลืมตาขึ้นครับ