อย่าเขินอายที่จะจินตนาการ

   


ลองนึกถึงช่วงเวลาก่อนที่สองพี่น้องตระกูลไรต์จะสร้างเครื่องบินลำแรกของโลกขึ้นมานะครับ ว่าพวกเขารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับเครื่องบิน?
.
ความจริงแล้วพวกเขาคงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเครื่องบินเพราะสมัยนั้นเครื่องบินยังไม่เกิดเลยเสียด้วยซ้ำ (แหงซิ ก็เครื่องบินลำแรกถูกสร้างขึ้นโดยพวกเขานี่นา) 
.
เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่สองพี่น้องตระกูลไรท์จะพึงจะต่อสิ่งที่เรียกว่าเครื่องบินก็คือ “จินตนาการ” 
.
จินตนาการว่าสักวันหนึ่งด้วยเครื่องมืออะไรบางอย่างที่พวกเขาสร้างขึ้น มนุษย์จะขึ้นไปโบยบินบนท้องฟ้าราวกับวิหค

จากเครื่องบินที่สร้างขึ้นมาด้วยโครงสร้างง่ายๆ (สำหรับคนในสมัยนี้) สามารถบินได้ในอากาศเพียงไม่กี่นาที 
.
เดี๋ยวนี้พัฒนาเป็นเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงที่สามารถบินข้ามทวีปได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีนกตัวไหนหรอกที่สามารถบินด้วยความเร็วเหนือเสียง มีแต่เครื่องบินของมนุษย์เท่านั้นแหละที่สามารถทำได้ 
.
มันจึงเป็นกฎง่ายๆ ว่าจินตนาการนั้นจะเป็นตัวนำทาง ส่วนองค์ความรู้ต่างๆ จะวิ่งตามมาสมทบทีหลังเสมอ
.
ความรู้จะเกิดก่อนจินตนาการนั้นเป็นไปแทบไม่ได้เลย ยกเว้นความรู้ที่ได้มาโดยบังเอิญ
.
จินตนาการจึงเปรียบเสมือนกับเข็มทิศชี้ทาง มันจะเป็นตัวบอกเราว่าเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จต่างๆ ขึ้นมา เราควรที่จะหันหน้าไปทางทิศไหน 
.
จินตนาการจึงเป็นพื้นฐานสำคัญเพิ่งจะขาดไปไม่ได้ 
.
และอุปสรรคเพียงหนึ่งเดียวของจินตนาการนั้นมีเพียงแค่ “การไม่กล้าแม้แต่ที่จะจินตนาการ”
.
สมัยนี้คนชอบพูดกันว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้นี่เป็นประโยคเด็ดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ 
.
ผมก็ไม่รู้ว่าหรอกไอน์สไตน์ได้พูดคำนี้ไว้จริงหรือเปล่า 
.
และคิดว่านั่นคงไม่ใช่สาระที่สำคัญอะไรนัก 
.
ความจริงไอน์สไตน์จะพูดคำนี้หรือไม่ก็ช่างหัวไอน์สไตน์เถอะ คงสำคัญที่ว่าเราได้อะไรจากประโยคที่ว่านี้บ้างต่างหาก
.
สำหรับบางคนที่เขาไม่เชื่อ (คือไม่เชื่อในสาระของประโยคและไม่เชื่อว่าไอน์สไตน์เป็นคนพูด) ก็มักเอาประโยคที่ว่านี้ไปถากถาง พูดดูถูกดูแคลนเย้ยหยันกันกันสารพัด หาว่ามีแต่จินตนาการโดยไม่มีความรู้ก็คือคนโง่ ก็คงได้แต่เพ้อฝันไปเรื่อยเปื่อย
.
บางทีก็พูดเสียจนรู้สึกขยาดการจินตนาการไปเลย ก็ไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าเป็นคนโง่นี่นา
.
ไร้สาระน่า 
.
เขาไม่ได้บอกว่าให้มีแค่จินตนาการสักหน่อย เขาบอกแค่ว่ามันสำคัญกว่าก็แค่นั้น ซึ่งการสำคัญกว่าก็ไม่ได้แปลว่าไม่จำเป็นจะต้องมีอย่างอื่นมาช่วยสนับสนุน 
.
ในความเป็นจริงแล้ว จินตนาการกับความรู้นั้นควรเป็นของคู่กัน มันไม่สมควรที่จะถูกแยกออกจากกันเลย 
.
อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วนั่นแหละว่า เพราะเรามีจินตนาการนำมาก่อน นี่แหละองค์ความรู้ต่างๆ ถึงสามารถเกิดขึ้นตามมาทีหลังได้
.
ถ้าไม่มีจินตนาการว่ามนุษย์จะบิน ความรู้เกี่ยวกับเครื่องบินก็จะไม่มีวันเกิดขึ้นตามมา
.
ดังนั้นที่ว่าสำคัญกว่านี้ แท้จริงจึงหมายถึงการมาก่อน มันจำเป็นที่จะต้องเกิดกระบวนการนี้ขึ้นมาก่อน
.
ก่อนที่จะเกิดสิ่งอื่นๆ ตามมาทีหลัง 
.
เพราะฉะนั้น “อย่าเขินอายเลยที่เราจะมีจินตนาการ”