ชีวิตคือการสื่อสาร

   


หลักการพื้นฐานที่สำคัญของ NLP ข้อหนึ่งกล่าวไว้ว่า  
 
“การสื่อสารไม่ได้หมายถึงวิธีการว่ามันเกิดขึ้นอย่างไร หากแต่หมายถึงการตีความหมายและตอบสนองต่อสิ่งที่กำลังรับรู้นั้นอย่างไรต่างหากว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร” 
 
นั่นหมายความว่าถ้าเรายิ้มทักทายอย่างมีมิตรไมตรีให้ใครซักคนนึงแล้วเขาเกิดโมโหขึ้นมาไม่ว่าจะด้วยเพราะว่าเหตุใดก็ตาม NLP จะมองว่าคนโมโหที่เป็นผู้รับสารไม่ผิดหรอก แต่เราในฐานะผู้สื่อสารออกไปเองต่างหากที่ทำผิดพลาดบางกระการจนทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เราต้องการสื่อสารออกไป
 
ในความเป็นจริงแล้วรอบตัวของพวกเรามีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาไม่ได้หยุดหย่อน ซึ่งระบบประสาทของเราก็จะต้องเผชิญกับการรับรู้กับประสบการณ์เหล่านี้อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ 
 
ถึงแม้ว่าเราจะสามารถตัดการรับรู้ภายนอกอันได้การการมองเห็นด้วยตา ได้ยินด้วยเสียง รู้รสชาติด้วยลิ้น ได้กลิ่นด้วยจมูก และรู้สึกสัมผัสด้วยผิวหนังออกไปได้ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามการรับรู้และสื่อสารกับระบบประสาทสัมผัสภายในร่างกายของเราอันไดแก่การรับรู้ภาพ เสียง กลิ่น รส และสัมผัสภายในจิตใจก็ยังคงเกิดขึ้นต่อไปได้อยู่ดีนั่นเอง 
 
เมื่อเรารับรู้ กระบวนการในการตีความหมายและตอบสนองต่อการรับรู้นั้นก็เกิดขึ้นตามมาเป็นกลไกอัตโนมัติไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน ดังนั้นหลักการพื้นฐานที่สำคัญประการหนึ่งของ NLP จึงกล่าวว่า 
 
“เราไม่สามารถที่จะไม่สื่อสารได้”
 
สำหรับ NLP แล้วการสื่อสารที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่มีอธิพลต่อมนุษย์มาก 
 
และดูเหมือนว่าผู้คนจะไม่ได้เป็นตัวของตัวเองซักเท่าไหร่นักในสายตาของ NLP 
 
เราไม่ได้กำลังเป็นในสิ่งที่เราต้องการจะเป็นหรอก หากแต่กำลังเป็นไปตามอิธิพลของสิ่งที่เรากำลังสื่อสารอยู่ด้วยต่างหากว่ามันเป็นอย่างไร 
 
เอาล่ะลองนึกภาพตามอย่างนี้ สมมุติว่าเราเดินอยู่ดีๆ แล้วทันใดนั้นเราก็ได้ยินเสียงดัง “ปัง!” ดังขึ้นมาจากระยะที่ไม่ใกลออกไปจากตัวเราเท่าไหร่นัก เมื่อได้ยินเสียงนี้แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป?
 
จะเดินต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะวิ่งหนีเอาตัวรอด จะเหลียวซ้ายมองขวาค้นว่าเสียงที่ดังขึ้นมานี้คือเสียงอะไร หรือจะแค่ตกใจเสียจนก้าวเท้าไม่ออก? 
 
ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าเราจะต้องการที่จะทำอย่างไร หากแต่มันขึ้นอยู่กับว่าสมองของเราตีความหมายต่อเสียงที่ได้ยินนั้นว่าอย่างไรและเรียนรู้ที่จะตอบสนองกับมันอย่างไรต่างหาก 
 
ถ้าตีความหมายว่าอันตรายและเรียนรู้ว่าอันตรายก็ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด เราก็ย่อมวิ่งหนีเอาตัวรอดไปตามประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มา แต่ถ้าตีความหมายว่าเสียงนั้นไม่มีอะไรไม่ต้องไปตอบสนองอะไรเป็นพิเศษเราก็อาจจะอยู่นิ่งๆ เฉยๆ แล้วต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ 
 
คำตอบจะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญ จะผิดหรือถูกก็คงไม่มีใครทราบ แต่สาระสำคัญตามมุมมองของ NLP ก็คือ แท้จริงแล้วคำตอบทั้งหมดของทุกพฤติกรรมมันขึ้นอยู่กับว่าเราสื่อสารกับสิ่งที่เรากำลังรับรู้กับมันอย่างไรก็เท่านั้นเอง 
 
ถ้ารูปแบบที่ใช้งานอยู่มันดีมีความสร้างสรรค์อำนวยต่อความสุขความสำเร็จชีวิตของเราก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่นสู่ความสุขความสำเร็จได้ แต่ถ้าเกิดเป็นตรงกันข้าม ความทุกข์ความผิดพลาดและความล้มเหลวก็จะเกิดขึ้นในชีวิตอย่างไม่สามารถเหลียกเลี่ยงได้เช่นกัน
 
ดังนั้นสำหรับเ NLP แล้ว ทั้งหมดในชีวิตที่ทุกคนกำลังเป็นอยู่ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ มันล้วนขึ้นอยู่กับรูปแบบการสื่อสารของแต่ละคนเท่านั้น 
 
ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านี้อีกแล้ว :)
 
------------------------------------------------------------
 
บทความต้นฉบับโดย www.thaihypnosis.com
ศูนย์ให้คำปรักษาและการสะกดจิตบำบัด
สงวนลิขสิทธิ์
#NLP #เอ็นแอลพี #สะกดจิต #hypnosis #สะกดจิตบำบัด #hypnotherapy #Neuro Linguistic Programming