พฤติกรรมอันนำไปสู่ความล้มเหลวในตลาดหุ้น ตอนที่ 1

   


ช่วงนี้เทรน (กระแสนิยม) เรื่องของการลงทุนไม่ว่าจะในตลาดหลักทรัพย์ (ตลาดหุ้น) หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ (Forex) กำลังเป็นที่นิยมนะครับ
 
ผมเองถึงแม้จะไม่ได้มีความรู้ในเรื่องพวกนี้มากนัก แต่จากประสบการณ์ของงานที่ทำอยู่ ทำให้ได้พบเจอกับบรรดานักลงทุนมากมายหลายท่านไม่ว่าจะเป็นระดับมือสมัครเล่น มืออาชีพ หรือระดับอาจารย์ก็ตาม ก็ทำให้ทราบได้ว่าบรรดานักลงทุนทั้งหลายไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่พวกเขาจะต้องเผชิญกับปัญหาอะไรกันบ้าง
 
เซียนหุ้นหรือเซียน Forex มักพูดตรงกันว่า การลงทุนนั้นความจริงแล้วเป็นเรื่องทางเทคนิคอยู่เพียงซัก 30 เปอร์เซ็นต์เห็นจะได้ ที่เหลืออีก 70 เปอร์เซ็นต์เป็นเกมทางจิตใจล้วนๆ
 
คือเทคนิคจะดีแค่ไหนก็ตามถ้าควบคุมใจตัวเองไม่ได้ก็ไปไม่รอด
 
สำหรับอุปสรรคทางจิตใจที่บรรดานักลงทุนมักจะต้องพบเจอกันอยู่บ่อยๆ และจะต้องปีนข้ามกันไปให้ได้นั้น สามารถกล่าวแยกออกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
 
++ “ความโลภ” ++
 
ผมคิดว่าพวกเราคงเคยได้ยินกันบ่อยๆ ว่าความโลภทำให้คนโง่ลง ไม่ว่านักลงทุนจะมีเทคนิคที่ดีเยี่ยมเพียงใด แต่หากเมื่อใดก็ตามที่ความโลภเข้าครอบงำ เทคนิคที่ดีเยี่ยมเหล่านั้นก็จะไร้ประโยชน์ในทันที
 
การลงทุนนั้นเป็นเรื่องของกลยุทธ์และทางเทคนิค สิ่งเหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ความฉลาดเฉลียวอย่างดีเยี่ยมจากจิตรู้สำนึก แต่ความโลภนั้นเป็นเรื่องของอารมณ์ เป็นผลผลิตที่เกิดมาจากจิตใต้สำนึกซึ่งไม่เคยเข้าใจเหตุผลใดทั้งสิ้นนอกจากความเคยชิน
 
เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจหากเมื่อใดก็ตามที่ความโลภทำงานความฉลาดที่มีก็จะหยุดทำงานลงโดยอัตโนมัติ เพราะสองสิ่งนี้เป็นกลไกทางสมองและระบบประสาทที่อยู่ด้านตรงข้ามกันเสมอ
 
เช่นบางคนตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพียงเท่านั้นเท่านี้ก็พอตามแผน Money Management ที่ตัวเองได้วางเอาไว้เป็นอย่างดี แต่พอเห็นกราฟเห็นตัวเลขที่กำลังวิ่งอยู่ในตลาดก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงผลกำไรมหาศาลที่กำลังรออยู่ ท้ายที่สุดก็เกิดเป็นสภาวะเทรดเกินตัว (Overtrade) ซึ่งถือว่าเป็นหายนะอย่างยิ่ง เพราะเป็นลักษณะเดียวกันกับคนที่ติดการพนัน หากเทรดแล้วได้กำไรก็แล้วไป แต่ถ้าผิดพลาดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ การบริหารจัดการเงินทุนของเรามันก็พังหมด
 
“เราลงทุนเพื่อผลกำไร ไม่ใช่การเสี่ยงโชค”
 
คนส่วนมากมักรู้ตัวเองว่าโลภมากก็ตอนที่เสียเงินไปมากแล้ว ถึงแม้นจะบอกตัวเองว่าฉันจะไม่โลภอีก แต่ท้ายที่สุดเมื่อมีเรื่องของผลกำไรมหาศาลมาอยู่ตรงหน้า ความโลภมันก็จะกลับมา แล้วก็มักจะวนเวียนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ
 
“ถ้าเอาชนะความโลภไม่ได้ อย่าเพิ่งเป็นนักลงทุน”
 
เป็นคำพูดที่ยังอมตะอยู่เสมอ