ความสุข

   


ทฤษฏีเก่าเขาว่า เพื่อเป้าหมายอันเป็นความสุข ณ.บั้นปลายแล้ว จงทำงานหนักทำอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อที่งานจะได้ประสบความสำเร็จ
เมื่องานประสบความสำเร็จก็เท่ากับว่าชีวิตของท่านประสบความสำเร็จ (เพราะค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน)
 
และเมื่อชีวิตของท่านประสบความสำเร็จท่านก็จะมีความสุขในชีวิต
 
แต่ทฤษฏีนี้มันแย่ตรงที่ กว่าจะมีความสุขได้ต้องกัดฟันทำงานหัวปักหัวปำ และเมื่องานอย่างหนึ่งประสบความสำเร็จมันก็มักจะมีงานอื่นที่ต้องการการประสบความสำเร็จกว่ามารอจ่อคิดอยู่อีกเสมอ
 
ก็เลยกลายเป็นว่าต้องก้มหน้าก้มตาลุยงานกันต่อไปโดยไปไม่ถึงจุดที่เป็นความสุขซักที
 
ที่แย่หนักกว่านั้นก็คือการทำงานหนักๆ ทำงานมากๆ ไม่ได้แปลว่าจะประสบความเร็จแน่ๆ ซึ่งถ้าไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมามันก็จะเหี่ยวได้ง่ายๆ ทีนี้เรื่องความสุขอะไรคงไม่ต้องพูดถึงอีก
 
ดังนั้นจึงมีคนเสนอทฤษฏีใหม่ว่า
 
ถ้ากระนั้นเราจะไปฝืนใจทำอะไรให้มันยากๆ กันทำไม
 
ก็สู้หาอะไรที่มันทำแล้วมีความสุขนั่นแหละทำมันเสียตั้งแต่แรกเมื่อทำอย่างมีความสุขแล้วก็จงมุ่งมันทำมันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดมันก็ประสบความสำเร็จซึ่งจะนำมาซึ่งความสุขยิ่งๆ ขึ้นกว่าเดิม
 
และถึงมันจะแป๊กบ้างอะไรบ้างมันก็ยังอยู่บนพื้นฐานของการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองมีความสุข กำลังใจจะกลับมาสู้ใหม่มันไม่ใช่เรื่องใกลเกินจริงแต่อย่างใด
 
หรือถ้าเราจะสรุปอะไรแบบชุ่ยๆ แต่ให้เข้าใจกันง่ายๆ ว่าการประสบความสำเร็จของงานก็คือความร่ำรวย
 
ก็ขอให้จำไว้เสมอว่าไม่มีงานอะไรที่ทำแล้วไม่ร่ำรวย ขนาดคนเก็บขวดเก็บกระดาษชั่งกิโลขาย เก็บดีๆ ก็ยังร่ำรวยได้ (ซึ่งก็มีมานักต่อนักแล้ว)

ดังนั้นงานอะไรก็ตามขอให้ทำมันจริงๆ ทำด้วยใจรัก และทำไปอย่างมีความสุขเถอะครับ มันจะพาให้ชีวิตคุณประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน