Learning NLP ตอนที่ 7 “น้ำหนักของข้อมูล”

   


เรื่องของ Sub-Modality ในวิชา NLP ดูเหมือนจะมีความสำคัญอยู่ค่อนข้างมาก ด้วยว่าสมองหรือระบบประสาทของคนเราจะตอบสนองต่อข้อมลูต่างๆ ด้วยวิธีการใดหรือด้วยปริมาณที่มากน้อยขนาดไหน ปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งเห็นจะเป็น Sub-Modality ที่บรรจุมาในตัวข้อมูลเหล่านั้นนั่นเอง
 
ดังนั้นในบทนี้จึงจะได้ขอกล่าวถึงเรื่องของ Sub-Modality อีกสักครั้งหนึ่ง
 
สมมุติว่าเรากำลังพูดถึงชายคนหนึ่งซึ่งแน่นอนแล้วว่าเขาเป็นคนกลัวแมลงสาบ
 
มันอาจจะเป็นเรื่องที่เรียบง่ายมากหากจะบอกว่าทุกครั้งที่ชายคนนี้มองเห็นแมลงสาบแล้วจะทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมา นี่เป็นผลลัพธ์กว้างๆ ของข้อมูลตัวหนึ่ง (ซึ่งก็คือแมลงสาบ) ในรูปแบบของ Visual Modality (การรับรู้ภาพ) ที่กำลังทำงานอยู่ภายในระบบประสาทของเขา
 
ที่นี้ถ้าเราจะทดลองขยายความหมายในส่วนของ Sub-Modality เข้าไปล่ะ? เช่นว่า
 
A. ชายคนนี้มองเห็นภาพแมลงสาบบนจอโทรทัศน์
 
B. ชายคนนี้มองเห็นแมลงสาบเกาะอยู่ตรงขากางเกงของเขา
 
C. ชายคนนี้มองเห็นแมลงสาบ 20 ตัวเกาะอยู่บนกำแพงซึ่งห่างจากจุดที่เขายืนอยู่ออกไปไม่ไกลนัก
 
D. ใช่คนนี้มองเห็นแมลงสาบเกาะอยู่บนเสาไฟฟ้าซึ่งอยู่ไกลออกไปร้อยเมตร
 
คุณคิดว่า Sub-Modality ที่แตกต่างกันเหล่านี้จะถูกตอบสนองด้วยปริมาณของความกลัวที่เท่ากันหรือไม่?
 
แน่นอนว่ามันไม่มีทางเท่ากันได้เลย
 
ดูเหมือนว่าแมลงสาบบนเสาไฟฟ้าที่อยู่ไกลลิบออกไปอาจจะไม่ได้สร้างความรู้สึกกลัวให้แก่เขาเลย (บางทีเขาอาจจะมองไม่ออกด้วยซ้ำไปว่าจุดเล็กๆ ตรงเสาไฟฟ้านั้นคือแมลงสาบก็ได้) ในขณะที่ภาพแมลงสาบบนจอโทรทัศน์อาจจะให้ความรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจได้บ้าง แต่ก็คงไม่ชั่วร้ายเท่ากับแมลงสาบที่เกาะอยู่ตรงขากางเกง หรือไอ้ 20 ตัวที่กำลังเกาะอยู่บนกำแพงนั่นแน่ๆ
 
ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นข้อมูลแบบเดียวกัน แต่ถ้าหากว่า Sub-Modality ของข้อมูลมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ระบบประสาทของเราก็พร้อมที่จะตอบสนองต่อข้อมูลเหล่านั้นด้วยวิธีการที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน
 
แต่ขอให้สังเกตว่า Sub-Modality จะเป็นเพียงตัวปรับแต่งน้ำหนักหรือปริมาณของการตอบสนองเท่านั้น โดยที่ Sub-Modality จะไม่สามารถกำหนดทิศทางของผลลัพธ์ได้แต่อย่างใดเลย (ทิศทางเป็นเรื่องของ Modality)
 
เช่นตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้นไม่ว่าจะเป็นแมลงสาบรูปแบบ A B C หรือ D ก็ตาม การตอบสนองทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในทิศทางเดียวกันทั้งสิ้น (คือตอบสนองด้วยความรู้สึกกลัว) ไม่มี Sub-Modality แบบใดเลยที่จะทำให้การตอบสนองเกิดการเปลี่ยนทิศทางได้ (เช่นเปลี่ยนจากความกลัวเป็นการมีความสุขหรือความพอใจ)
 
นี่เป็นกฎเกณฑ์พื้นฐานที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่อง Modality และ Sub-Modality ในวิชา NLP
 
โดยทั่วไปแล้วนัก NLP จะอาศัยการปรับแต่ง Sub-Modality ภายในห้วงการรับรู้ของผู้คนเพื่อปรับแต่งน้ำหนักหรือปริมาณในการตอบสนอง ในขณะที่การปรับแต่งทิศทางจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง Modality
 
เช่นถ้าเปลี่ยนจากแมลงสาบ 20 ตัวบนกำแพงให้กลายเป็นดอกไม้ 20 ดอก ความกลัวก็สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นความสดชื่นสบายใจขึ้นมาได้ในทันที
 
NLP เป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องของผลลัพธ์จากการสื่อสารระหว่างระบบประสาทกับสิ่งต่างๆ ที่กำลังรับรู้อยู่ เรื่องของการรับรู้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อวิชา NLP